นับว่าเมืองไทยของเราโชคดีที่มีพืชสมุนไพรมากมายให้เราได้นำมาใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงความงาม หรือแม้แต่นำมาทำเป็นอาหาร โดยที่สมุนไพรบางชนิดก็จะให้ผลกับชายและหญิงต่างกันออกไป อย่างเช่นต้นไมยราบนี้ ที่ดูเหมือนจะดีต่อสุขภาพของผู้หญิงเรามากกว่าผู้ชายเสียอีก แต่สาเหตุจะเป็นเพราะอะไรนั้น ต้องลองมาอ่านจากข้อมูลของ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ได้ให้คำอธิบายเอาไว้ในนิตยสาร Happy+ ดังนี้ค่ะ
ไมยราบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mimosa Pudica L. อยู่ในวงศ์ FABACEAE และมีชื่ออื่น ๆ ได้แก่ หญ้าต่อหยุบ หญ้ายุบยอบ กะหงับ ก้านของระงับ หงับพระพาย หญ้าจิยอบ และหญ้าปันยอด เป็นไม้ล้มลุก ใบประกอบเหมือนขนนก 2 ชั้น ดอกช่อกระจุกแน่น สีชมพู ออกที่ง่ามใบ ผลเป็นฝักแบน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
ในอดีต ไมยราบเป็นสมุนไพรประจำหม้อต้มยาของพระป่า ซึ่งท่านใช้แก้ปวดเมื่อย แก้ชัด ทำให้นอนหลับสบาย จึงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่หมอยาพื้นบ้าน แต่กลับไม่เป็นที่นิยมใช้ เพราะนอกจากจะทำให้หลับ สงบประสาทแล้ว สมรรถภาพทางเพศของผู้ชายก็พลอยหลับไปด้วย เพราะเหตุนี้ พ่อหมอชาวมุสลิม ซึ่งเรียกไมยราบว่า “กือแมงาโต๊ะ” จึงห้ามไม่ให้ผู้ชายกินยาตัวนี้ เพราะจะทำให้ผู้ชายจะมาตีปูโจ๊ะ (หมดความรู้สึกทางเพศ) เทียบได้กับการทำหมันซึ่งถือว่าบาป
พ่อหมอไทใหญ่ก็พูดทำนองเดียวกันว่า กินหญ้าต่อหยุบแล้วจะทำให้ไม่อยากเข้าหาผู้หญิง แน่นอนว่าปุถุชนคงไม่ชอบ แต่สำหรับพระภิกษุ คงช่วยให้ท่านเจริญในธรรมได้ดี หมอยาพื้นบ้านทุกภาคนิยมนำไปไมยราบมาใช้รักษาแผล ทั้งแผลสด แผลเรื้อรัง แผลพุพอง ฝี หนอง ผดผื่นคัน เริม และงูสวัด ใช้ทั้งห้าต้มกินแก้ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเมื่อย ปวดหัว ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว แก้ไตพิการ แก้เบาหวาน ในตำรายาสมุนไพรไทยระบุว่า ไมยราบมีรสจืดเฝื่อน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับระดูขาว แก้ไตพิการ
สำหรับผู้หญิงแล้ว ไมยราบมีสรรพคุณที่น่าสนใจ คือ การใช้ชำระล้างจุดซ่อนเร้นและทำให้กระชับขึ้น ซึ่งเป็นสรรพคุณที่พ่อหมอแม่หมอภาคใต้ และหมอยาไทใหญ่บอกตรงกัน นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาวิจัยพบว่า ไมยราบเป็นสมุนไพรที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ดี ทั้งยังเป็นพืชในตระกูลถั่ว ซึ่งส่วนใหญ่มีสารไฟโตเอสโตรเจน หรือสารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเพศหญิง จึงสอดคล้องกับการนำมาใช้ในสรรพคุณดังกล่าว
ปัจจุบัน ในประเทศอาเซียนบางประเทศ มีผลิตภัณฑ์ไมยราบแคปซูล ที่ขึ้นทะเบียนเป็นยาช่วยในการนอนหลับ สำหรับประเทศเราก็มีกลุ่มแม่บ้านที่นำไมยราบทั้งห้ามาทำเป็นชาไมยราบ เพื่อขับนิ่ว แก้วปวดเมื่อย ในตำรับยาบำรุงสุขภาพของหมอยาอีสาน นิยมใช้ไมยราบเป็นตัวยาหลัก ต้มรวมกับใบหม่อน เคยหอม คำฝอย และทองพันชั่ง ดื่มเป็นชาสมุนไพรเพื่อบำรุงสุขภาพและแก้ปวดหลัง
จากการศึกษาวิจัยสมัยใหม่พบว่า ไมยราบมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา แก้ปวด แก้อาการกล้ามเนื้อเกร็ง แก้ปวด แก้อักเสบ ทำให้แผลหายเร็ว ขับปัสสาวะ คลายเครียด ทำให้ง่วงนอน ซึ่งล้วนแต่เป็นการสนับสนุนการใช้ของคนโบราณทั้งสิ้น ดังนั้น ไมยราบจึงเป็นสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น ทิงเจอร์รักษาแผล แก้ผด ผื่นคัน ชาสมุนไพรคายเครียด น้ำยาชำระล้าง จุดซ่อนเร้น เป็นต้น
ตำรับยาไมยราบ
-ยาสำหรับชำระล้างจุดซ่อนเร้น
นำไมยราบทั้งห้า ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่น ตากแดดให้แห้ง ใช้ประมาณ 5 กรัม ต้มน้ำประมาณ 100 ซีซี ลดไฟลง ต้มต่ออีกประมาณ 15 นาที จากนั้นกรองเอาน้ำไว้ใช้ล้างจุดซ่อนเร้น ช่วยให้กระชับและดับกลิ่น
-ยาแก้ตกขาว
ใช้ไมยราบ และหญ้าหวาดหลุบ (หญ้าคมปาว) ทั้งสองอย่างนี้มาต้มรวมกันไว้ดื่ม และต้มอาบ
-ยาบำรุงสตรีหลังคลอด
นำรากสดของไมยราบ ประมาณ 3-5 ราก มาต้มน้ำดื่ม ครั้งละประมาณครึ่งแก้วน้ำชา ดื่มวันละ 2-3 ครั้ง
-ยาแก้เบาหวาน
นำไมยราบทั้งต้นมาสับ ตากแดด ผสมกับครอบฟันสี ต้มน้ำดื่ม
-ยาแก้นิ่ว ขับปัสสาวะ บวม
นำไมยราบทั้งห้า มาต้มดื่ม
-ยาบรรเทาอาการบวมจากพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
นำใบไมยราบมาขยี้ แล้วแปะตรงที่มีอาการ
-ยาแก้ฝีหนองหรือตุ่ม
นำไมยราบทั้งห้าส่วน มาต้มน้ำดื่มและอาบ รากให้ทา
-ยาแก้ปวดเอว
ใช้เข้ากับจีผาแตก และเครือไมยราบ นำมาต้มดื่ม
ข้อควรระวัง
ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เพราะมีฤทธิ์ต่อสมองส่วนกลาง
ไม่ควรใช้ในสตรีที่มีครรภ์และหญิงให้นมบุตร
ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://health.kapook.com/view111595.html
เรื่องโดย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
สมุนไมยราบ
นายอานนท์ ภาคมาลี (หมอแดง)
สมุนไมยราบ ไม้ล้มลุกสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพร ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไมยราบหรือหญ้าปันยอดมักมองกันว่าเป็นวัชพืชไร้ค่า แต่รู้ไหมว่าเป็นพืชที่มีสรรพคุณ ไมยราบเป็นไม้ล้มลุก ไม้พุ่มหรือไม้พุ่มรอเลื้อย มีหนามตามลำต้นและข้อ ใบมีลักษณะแบบขนนก 2 ชั้น มีปฏิกิริยาไวต่อการสัมผัส ใบจะหุบลู่ลง พืชสกุลไมยราบมีอยู่ประมาณ 480 ชนิด มักมีถิ่นกำเนิด อยู่ในอเมริกาใต้ ในประเทศไทยพบขึ้นเป็นวัชพืช 3 ชนิดคือ ไมยราบ ไมยราบขาว และไมยราบต้น นับว่าเป็นพืชสมุนไพร มีสรรพคุณ ทั้งต้นมีรสชุ่ม เย็นจัด แก้ไข นอนไม่หลับ สงบประสาท แก้เด็กเป็นตาลขโมย ตาบวมเจ็บ แผลฝี ผื่นคันและออกหัด รากรสขมเล็กน้อย ฝาด สุขขุม แก้ไอ ขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ปวดตามข้อ กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง บำรุงกระเพาะอาหาร ระงับประสาท
ดอก ออกเป็นดอกช่อกระจุกแน่น ออกที่ซอกใบกลีบดอกสีชมพู ผลเป็นฝักข้อสั้นๆอยู่รวมกันกับช่อ ผลแก่สีน้ำตาล ประโยชน์แม้จะเป็นพืชที่มีการแพร่กระจายพันธุ์อย่างรวดเร็วและกำจัดค่อนข้างยาก ซึ่งก่อให้เกิดปัญหา แต่ยังมีประโยชน์ทางสมุนไพร ทุกส่วนนำมาหั่นแล้วคั่วโดยใช้ไฟอ่อนๆกลิ่นหอม แล้วนำไปชงน้ำร้อนดื่มแทนชาช่วยลดคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดได้
ราก แก้ไอ ขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง แก้ระบบการย่อยอาหารของเด็กได้ดี บำรุงกระเพาะอาหารทำให้ตาสว่าง ระงับประสาท แก้บิด ขับปัสสาวะ รักษาโรคปวดเวลามีประจำเดือน ถ้าไข้สูงมากๆจะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน แก้ริดสีดวงทวาร รสขมเล็กน้อย ฝาด ปวดข้อ กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
ต้น ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ แก้ทางเดินปัสสาวะ อักเสบขับระดูขาว ขับโลหิต
ใบ แก้โรคเริม งูสวัด โรคพุพอง ไฟลามทุ่ง
พืชไมยราบ มีต้นสีน้ำตาลแดง ชอบแผ่ไปตามพื้นและชูยอดขึ้น ต้นมีหนามขนาดสั้น ใบประกอบคล้ายผักกระเฉด ดอกเป็นช่อกลมสีชมพู ก้านดอกยาว ไมยราบ เมื่อใดก็ตามที่เอานิ้วหรือกิ่งไม้ไปสัมผัส ใบแลก้านจะตอบสนองโดยการหุบตัวลงมาอย่างรวดเร็ว
ไมยราบเป็นสมุนไพร ที่รู้จักดีของหมอยาพื้นบ้าน และมักนิยมนำมาใช้ เกี่ยวกับสรรพคุณเด่น คือ การขับนิ่ว ขับปัสสาวะ แก่บวม ไส้เลื่อน วิธีการใช้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพียงแต่นำไมยราบทั้ง 5 มาต้มกิน (ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล) สรรพคุณที่หมอพื้นบ้านมาใช้อย่างแพร่หลายอีกคือ แก้ปวดหลังปวดเอว ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว แก้ไตพิการ โดยนิยมใช้ไมยราบทั้ง 5 มาต้มกินและถ้าเจาะลึกในตำรายาบำรุงสุขภาพ จะนิยมผสมใบหม่อน ใบเตยหอม ดอกคำฝอย และทองพันชั่ง ****โดยใช้ไมยราบเป็นตัวยาหลัก ดื่มเพื่อสุขภาพและใช้แก้อาการปวดหลัง
ขยายความ ****ใบหม่อน ใบเตยหอม ดอกคำฝอย ทองพันชั่ง
*ใบหม่อน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยลดระดับ คอเลสเตอรอล หรือไขมันในเส้นเลือด และช่วยปรับลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยังพบแร่ธาตุ และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด สรรพคุณตามแพทย์แผนไทย ใบหม่อน แก้ตาแดง ตาแฉะ ตามัว ตาฟาง แก้ไอ เจ็บคอ ใบหม่อน และใบหม่อนคาบลูกคาบดอก นำมาปรุงเป็นอาหารเช่นใส่ต้มยำปลา ต้มยำเนื้อ ต้มยำไก่ หรือในหม้อต้มก๋วยเตี๋ยว ทำให้มีรสชาติอร่อย เพิ่มความเข้มข้นในน้ำต้มยำต่างๆ
*ใบเตยหอม เตยหอมมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ขับปัสสาวะ รักษาโรคเบาหวาน ใบ บำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น ลดการกระหายน้ำ และอาจใช้ใบตำพอกรักษาโรคหัด โรคผิวหนัง ลำต้นและราก ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้น้ำเบาพิการ และรักษาโรคเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด
*ดอกคำฝอย เป็นยาบำรุงโลหิต บำรุงประสาท แก้โรคผิวหนัง ลดไขมันในเส้นเลือด และป้องกันไขมันอุดตัน ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดต่ำ ช่วยให้การอุดตันของไขมันในหลอดเลือดลดลง ใบรสเป็นยาเบื่อเมา เป็นยาเย็นดับพิษไข้ ราก ป่นละเอียด ทาแก้กลากเกลื้อน ผดผื่นคัน
*ทองพันชั่ง ไม้พุ่มสูง 1-2 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม ส่วนโคนต้นเนื้อไม้เป็นแกนแข็ง ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน รูปไข่ กว้าง 2-4 ซม.ยาว 4-8 ซม.ปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวอ่อน ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกสีขาวเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นสองปาก ปากล่างมีจุดสีม่วงแดง ผลเป็นฝักเล็ก พอแห้งแตกออกได้ ส่วนที่ใช้ ราก ทั้งต้น ต้น ใบ สรรพคุณ
ราก แก้กลากเกลื้อน รักษาโรคโรคมะเร็ง รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด รักษาโรคผิวหนัง ดับพิษไข้ แก้พิษงู แก้พยาธิวงแหวนผิวหนัง กระเพาะลำไส้ มะเร็งตามร่างกาย ทำให้ผมดกดำ อาเจียนเป็นเลือด รักษาโรคไขข้อพิการ แก้ลมเข้าข้อที่ทำให้ปวดบวมต่างๆ ขับปัสสาวะ
ทั้งต้น รักษาโรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน รักษามะเร็ง คุดทะราด ขับพยาธิตามผิวหนัง ตามบาดแผล แก้ไส้เลื่อน ไส้ลาม แก้ปัสสาวะผิดปกติ
ใบ ดับพิษไข้ แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน แก้โรคไขข้ออักเสบ รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคความดันโลหิตสูง แก้ผมร่วง บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ แก้ปวดฝี แก้พิษงู ถอนพิษ แก้อักเสบ แก้โรคมุตกิด รักษาโรคพยาธิตามผิวหนัง
นอกจากนี้ยังมี การนำใบไมยราบไปตำพอก รักษาแผล ทั้งแผลสด แผลเรื้อรัง ลดผื่นคัน เริม งูสวัด และช่วยให้นอนหลับสบาย แต่พบว่ายาตำรับนี้ไม่เป็นที่นิยมทั่วไป เหตุผลน่าจะเป็นเพราะไมยราบช่วยให้หลับ และสงบประสาทดีแล้ว ยังผลให้สมรรถนะทางเพศของผู้ชายหลับใหลไปด้วย ไมยราบมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา แก้ปวด แก้ไข้ ต้านการเกร็งของกล้ามเนื้อ แก้อักเสบ ขับปัสสาวะ คลายเครียด ทำให้ง่วงนอน การพัฒนาทำเป็นยาทิงเจอร์รักษาแผล ยาแก้ผดผื่นคัน หรือทำเป็นชาคลายเครียด ซึ่งไมยราบมีสารออกฤทธิ์คล้ายยานอนหลับอ่อนๆ
ประโยชน์ แม้จะเป็นพืชที่มีการแพร่กระจายพันธ์อย่างรวดเร็ว และกำจัดค่อนข้างยาก ซึ่งก่อให้เกิดปัญหา แต้ก็ยังมีประโยชน์ทางสมุนไพร สามารถนำทุกส่วนหั่นแล้วคั่ว โดยใช้ไฟอ่อนๆ จะมีกลิ่นหอม แล้วนำไปชงแทนชา ช่วยลดคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดได้
ข้อแนะนำ ก่อนที่จะหยิบยกเรื่องของไมยราบมาเขียน ผู้เขียนได้สอบถามผู้ที่ดื่มไมยราบ จากคำบอกเล่า โดยเป็นยาผีบอก ฝัน และได้ไปบอกเพื่อนๆต่อ จำนวน 4 ราย ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดเกิน 300 ขึ้นไป และมีโรคความดันโลหิตสูงอยู่ด้วย ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลติดต่อกันมาหลายปี โดยการนำไมยราบมาต้ม กับใบเตยหอมแล้วดื่มแทนน้ำดื่มเป็นประจำทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยไปรับการตรวจหาน้ำตาลในเลือดตามแพทย์นัด ผลออกมาพบน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 90 ความดันโลหิตลดลงเป็นปกติ ทั้ง 5 ราย ผู้เขียนจึงไปที่ตำบลดอนทอง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี ไปถ่ายรูปต้นไมยราบที่กำลังออกดอก และออกฝัก และเก็บต้นไมยราบ ทั้ง 5 มาทดลองหั่นแล้วคั่วไฟอ่อนๆ เพราะผู้เขียนเริ่มมีอาการเป็นโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือด 130 และความดันโลหิตเริ่มสูง 79/139 มม.ปรอท มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และปวดข้อ นอนไม่ค่อยหลับ(เริ่มแก่) รับประทานไมยราบ ประมาณ 2 วัน ก่อนไปตรวจสุขภาพตามแพทย์นัด ผลการตรวจสุขภาพ ตามแพทย์นัด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ปรากฏว่าพบน้ำตาลในเลือด 120 ความดันโลหิต 80/130 มม.ปรอท ผู้เขียนต้องการบอกให้ท่านๆทั้งหลายทราบและเผื่อจะนำไมยราบมาทำตามคำแนะนำและหายจากโรคน้ำตาลในเลือดสูง(โรคเบาหวาน)และโรคความดันโลหิตสูงและโรคอื่นๆที่ได้กล่าวมา
จริงๆแล้วต้นไมยราบที่ขึ้นตามลำคลองแถวตำบลดอนทอง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรีและอำเภอใกล้เคียง ชาวบ้านจะนำลำต้นไมยราบมาใช้ทำรั้วบ้าน ไม้ค้ำผัก หรือทำเป็นฟืน หรือเผาถ่านเพื่อประกอบอาหาร หรือใช้สุมไฟให้วัว ควาย เพื่อไล่ยุงและริ้น ไรในเวลาพลบค่ำ หรือชาวบ้านจากที่อื่นๆจะนำลำต้นมาดัดเป็นสิ่งประดิษฐ์ เช่นทำเป็นกระถางต้นไม้ในรูปแบบต่างๆเพราะไมยราบเป็นไม้ดัดง่ายในรูปทรงต่างๆ เป็นกระเช้าหรือกระถางใส่กล้วยไม้ โครงกระเป๋าต่างๆหรือกรอบรูป
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นายอานนท์ ภาคมาลี
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/478605
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.gotoknow.org/posts/478605
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1125616330798572&id=249167131776834