เกษตรกรในตำบลอ่างหิน อ.ปากท่อ จ. ราชบุรี ทดลองปลูกแอปเปิ้ลเมล่อน ให้ผลผลิตปีแรกทำเงินสร้างรายได้ต่อรุ่นกว่าแสนบาท
เกษตรกรหมู่ที่ 6 ตำบลอ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ใช้พื้นที่ดินประมาณ 30 ไร่ นำพันธุ์แอปเปิ้ลเมล่อนมาสายพันธุ์จากประเทศไต้หวันมาปลูกสร้างโรงเรือนระบบปิด แบ่งการปลูกเป็นรุ่น รุ่นละ3 ไร่ ใช้วิธีการปลูกแบบผสมผสาน สามารถสร้างรายได้ดีเป็นปีแรกกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ หลังจากได้ปรับเปลี่ยนปลูกพืชผักมาแล้วหลายชนิด เช่น เมล่อน แคนตาลูป
สำหรับการปลูกแอปเปิ้ลเมล่อนเป็นผลไม้ชนิดใหม่ที่ต้องใช้เทคนิคการปลูกและการดูแลเป็นพิเศษมีคุณภาพเนื้อและรสชาติตรงกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นผลสำเร็จ
นายธีรเกียรติ ทะแพงพันธ์อายุ42ปี อยู่บ้านเลขที่92 หมู่ 6 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ เกษตรกรผู้ปลูกแอปเปิ้ลเมล่อน กล่าวว่า ได้นำสายพันธุ์ลูกผสมแอปเปิ้ลมาจากประเทศไต้หวัน มาทดลองปลูกอย่างจริงจังได้ผลผลิตเป็นปีแรก หลังจากได้ทดลองปลูกแปลงเล็กๆมาแล้ว แอปเปิ้ลเมล่อนมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีความหวานในระดับ 12-14 บริกซ์ เนื้อมีสีเขียวอมขาวรสชาติหวานกรอบ โดยแหล่งปลูกที่ต.อ่างหิน จะเป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ด้วยสภาพพื้นที่แอปเปิ้ลเมล่อนจะชอบดินทรายเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างทนแล้ง ในดินจะมีแร่ธาตุค่อนข้างสมบูรณ์ การปลูกใช้ระบบน้ำหยด ช่วยเรื่องการประหยัดน้ำและปุ๋ยได้ไปในตัวและยังสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่ง
การปลูกจะไว้ผลเพียง1ลูกต่อ1 ต้น ผลที่ไม่สมบูรณ์ตัดออกมีการปลูก 2 แบบ ปลูกได้ทั้งแบบโรงเรือน ที่จะมีการทำค้างเพื่อให้ผลแอปเปิ้ลเมล่อนห้อยลงมาทำให้มีผิวสวยได้ขนาดไม่มีตำหนิ และยังเป็นการป้องกันแมลง ป้องกันฝน ส่วนแบบที่ 2 แบบปลูกนอกโรงเรือน ผลแอปเปิ้ลเมล่อนจะติดดินทำให้ผิวไม่ค่อยสวยเหมือนแบบแรก การปลูกใช้เวลาประมาณ 56 วัน โดยวิธีแบบผสมผสานระหว่างเคมีกับชีวภาพ การปลูกจะรองพื้นดินในหลุมด้วยปุ๋ยคอก และใช้ปุ๋ยเคมีเมื่อออกดอกมาจะผสมเกสรแล้วจึงใช้ปุ๋ยชีวภาพซึ่งเป็นฮอร์โมน เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพดี
การดูแลค่อนข้างยากเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ขณะที่ถ้าสภาพอากาศร้อนจะทำให้แอปเปิ้ลเมล่อนได้ผลผลิตเร็ว แต่ระยะเวลาการเก็บจะสั้น โดยบริเวณผิวจะมีสีเหลืองอ่อนที่บริเวณขั้วผลแสดงถึงการสุกเตรียมเก็บผลผลิตได้แล้ว เตรียมจัดส่งจำหน่ายตามท้องตลาดผลไม้ทั่วไป ราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท มีขนาดไซซ์ A และ ไซซ์ B มีขนาดลูกละ 5-7 ขีด ขณะที่บางแห่งปลูกแล้วจะมีเนื้อและรสชาติไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค คือ เนื้อจะออกมาสีขาวขุ่น ไม่หวานกรอบ เหมือนกับที่นี่
อนาคตจะเป็นผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ของตลาด โดยเฉพาะคนที่รักสุขภาพด้วยขนาดลูกผลที่มีขนาดพอดีไม่ใหญ่มากพอเหมาะทำให้ได้รับความสนใจจากประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศแรกที่มีออเดอร์สั่งเข้ามาเป็นประเทศแรกคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้รุ่นละไม่ต่ำกว่า 2,000 กิโลกรัม เฉลี่ยมีรายได้ต่อรุ่นไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ใช้เวลาการปลูกเพียง 56 วัน สามารถทำเงินสร้างรายได้รุ่นละกว่า 1 แสนบาท ถือเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ สร้างรายได้หมุนเวียนแก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี