ปัจจุบัน อายุ 29 ยังไม่แต่งงาน
ผมเรียนจบราชภัฎต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง
เริ่มทำงานแรกตอนอายุ 22 เข้ากทมไปหางานทำ เงินเดือนได้ประมาณ 12,000 บาท งานสาย it ถือว่าเงินเยอะพอสมควร
แต่ผมก็อยู่ไม่ได้ เงินไม่พอใช้
เลยต้องกลับมาทำงานต่างจังหวัดแถวๆบ้าน ขับรถวันละเกือบ 100 กิโล ติดแก๊ส ได้เงินเดือนมากขึ้นเป็น 15,000
ทำมา 1ปี ก็ได้ปรับขึ้นเป็น 18,000
แรกๆก็เก็บเงินได้ หลังๆเคยตัวได้เงินมาก็ใช้และคิดว่ามีเงินใช้ไปตลอด เลยแทบไม่เหลือเก็บ บวกกับเบื่อกับงานประจำ ทำไปก็เหมือนย่ำอยู่ที่เดิม
เลยลาออกไปหางานใหม่ ก็ทำไปสักพักก็เป็นแบบเดิมอีก คือเบื่องานทำซ้ำๆทุกๆวัน เลยลาออกมาตกงาน อยู่2ปี
ช่วงที่ทำงานรวมทำงานประมาณ2ปี มีเงินเก็บประมาณ 60,000 ก็เอาไปซื้อกล้องหมด
ระหว่างนี้ ผมมีกล้อง เลยลองรับถ่ายรูป เพื่อนๆญาติๆมีงานก็ถ่ายให้ แล้วมีคนเห็นงาน ก็เริ่มรับงานถ่ายรูป
ก็รับงานมาเรื่อยๆหนักเบาถ่ายหมด ไม่เคยปฎิเสธงาน ไม่เคยเลือกงาน(แต่ตอนนี้เลือกแล้วครับ สังขารไม่ไหว) แต่ก็ยังหางานประจำทำอยู่
หลังๆงานเข้ามาเยอะพอเลี้ยงตัวเองได้ ได้เงินเยอะกว่างานประจำ ก็เลยเลิกหางานประจำทำ
ช่วงแรกๆก็พอเลี้ยงตัวเอง หลังๆก็มีเหลือเก็บ ช่วงนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่มีเงินเก็บถึงแสน
ดีใจมากๆ ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีเงินเยอะขนาดนี้
การใช้เงินก็ยังประหยัดเหมือนเดิม ทำรายรับรายจ่ายตลอด
และมาถึงช่วงนึง ถ่ายรูปหนักมาก 4-5วันติด ตื่นตี4ทุกวัน ไม่ไหว ท้อแท้กับงาน คิดไว้เลยว่าอายุ40-50 คงถ่ายไม่ไหวแน่ๆ
ก็ไปทำงานประจำกับบริษัทญี่ปุ่นที่มั่นคงมากๆแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนเกือบๆ 3หมื่น
ตอนที่ทำ ความคิดเดิมๆกลับมาอีก ในใจก็คิดว่า เรามาทำอะไรตรงนี้ ตรงนี้ไม่ใช่ที่ๆเราจะอยู่ไปตลอด ก็ลาออกจากงานประจำมาอีกครั้ง
ตอนนี้ยังถ่ายไหว ก็ต้องสู้ ไปก่อน คราวนี้กลับมาถ่ายรูป เลือกงานมากขึ้น ถ่ายงานติดๆกันก็ไม่รับ เพื่อจะได้เต็มที่กับงานที่รับไว้ได้เต็มที่
ช่วงนี้หางานอย่างอื่นเสริม รับงานเป็น consult ด้าน it ให้บริษัทต่างๆ และรับงานเขียนโปรแกรม เพราะคิดว่าอาชีพ freelance ต้องหาเงินมาจากหลายๆทาง เพราะแต่ละงานไม่มีความมั่นคงเลย
สำหรับผม ความมั่นคงในงาน งานประจำก็ไม่มั่นคง ไม่มั่นคงที่ตัวผมเอง
มีบางอารมณ์ก็อยากเข้ากทมไปหางานประจำทำ เห็นคนในpantip อายุประมาณผมได้เงินเดือนเป็นแสนกันทั้งนั้น
แต่เวลาผมกลับบ้าน ไปเจอหน้าแม่ เจอหน้ายาย ผมรู้ว่านี่คือเป้าหมายหนึ่งในชีวิตของผม มีเงินพอเลี้ยงตัวเองได้ และได้อยู่กับคนที่รัก แม้จะไม่ได้มีเงินเดือนเยอะเหมือนคนอื่นก็ตาม
ช่วงนี้เดือนๆนึงไม่มีวันว่างเลย รายได้ก็มากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน เฉลี่ยก็อยู่ที่ 2หมื่นกว่า
แต่ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การเก็บเงิน ทำรายรับรายจ่าย
เคยมีคนบอกว่า “เราใช้เงินได้เท่าไหร่ เราต้องหาเงินได้มากกว่า” แต่ผมคิดว่าตอนที่เรายังหาเงินเพิ่มไม่ได้ ก็ต้องมาประหยัด อุดรูรั่วทางการเงินไว้ก่อน
ตอนที่มีเงินประมาณ3แสน ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากมีเงินล้านก่อนอายุ 30 คิดไว้ว่าจะมีครบตอนเดือนเกิดเลย แต่ช่วงนี้งานโหมเข้ามาจากหลายทาง เลยทำให้ตอนนี้มีครบล้านก่อนถึงเดือนเกิดหลายเดือน
มาถึงจุดนี้ มองไปข้างหน้า ถ้ามีครอบครัว มีแต่รายจ่ายครับ รถก็ใช้รถเก่าๆ ประมาณ20กว่าปีแล้ว บ้านก็ต้องซื้อ ไหนจะแต่งงานอีก เงินแค่นี้ไม่พอแน่นอนครับ
การจัดสรรเงิน ของผมลงในหุ้น 30% ลงทุนไปการซื้อที่ทำไร่ทำสวน 30% ฝากประจำ+กองทุน 30% ที่เหลือเผื่อไว้ใช้ฉุกเฉิน
นี่เป็นกราฟการเก็บเงินของผมครับ
รายได้ผมไม่ได้มากมายนัก รายได้ก็พอๆกับคนทั่วๆไป ผมเคยเห็นคนมาตั้งกระทู้ ได้เงินล้านแรก แต่เงินเดือนเค้า 5หมื่น ไม่แปลกเลยที่จะเก็บได้ แต่ผมเชื่อว่าคนทั่วไปส่วนใหญ่ รายได้ไม่ได้สูงขนาดนั้น ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีเงินล้านได้ เลยอยากตั้งกระทู้นี้เป็นกำลังใจให้เก็บเงินครับ ค่อยๆเก็บอะไรที่จำเป็นก็จ่ายไป อะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าไปซื้อ
ไม่ได้อยากให้ออกจากงานประจำมาทำงานเองเหมือนผมนะครับ ถ้าได้ทำงานที่ตัวเองมีความสุข คุณก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่ได้ทำแล้ว มีเงินเหลือมีเงินเก็บนั่นถือเป็นโบนัส อย่าเห็นว่าคนอื่นทำอะไรรวยแล้วทำตาม อย่าคิดว่าจะเลือกทำในสิ่งที่รวยอย่างเดียว ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบตัวเองถนัด ทุกๆอาชีพที่ทำมีความสำคัญหมด อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับใคร ผมในตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้เงินเยอะขนาดนี้ แต่ทำไปด้วยใจรัก
และที่สำคัญอีกอย่างคือ ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตามโลกให้ทัน แต่ไม่ต้องใช้เงินตามกระแสนิยมนะครับ
สำหรับผม ผมคิดว่าผมประสบความสำเร็จตั้งแต่ ผมเลี้ยงตัวเองได้ ผมได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวทุกๆวัน แค่ตรงนี้ก็พอแล้วครับ
ที่มา : pantip