ตามหา " สูตรกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง " ตำรายาอายุวัฒนะ
เมื่อ พ.ศ.2510 ข้าพเจ้า (หมายถึงผู้เผยแพร่นะครับ) ได้ไปที่จังหวัดอุดรธานี ได้ไปพบพระยาอุดรฯ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ 82 ปีท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เมื่อท่านมีอายุ 52 ปี สุขภาพทรุดโทรมมาก ถึงกับต้องลาออกจากราชการก่อนเกษียณ
แ ต่ปัจจุบันท่านสามารถเล่นกอล์ฟ แทงบิลเลียด และเต้นรำได้ดุจคนหนุ่มๆ มิหนำซ้ำยังมีอนุภรรยาได้ด้วย
ข้าพเจ้าถามท่านว่าท่านมีอะไรดี ถ้าไม่สงวนขอได้ไหม ?
ท่านได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า พระธุดงค์รูปหนึ่งเป็นผู้บอกตำรายานี้ให้กับท่าน ท่านได้รับประทานยาขนานนี้มาเป็นเวลากว่า 30 ปี
และข้าพเจ้าก็ได้ทำยาขนานนี้รับประทานมา 8-9 ปีแล้ว รู้สึกว่าได้ผลดีมาก จึงได้แนะนำยานี้ไปทั่ว จนบางคนถึงกับขนานนามข้าพเจ้าว่า “อาจารย์กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง” ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ถือ เพราะถือว่าเอาของดีมาเผยแพร่
ตำรายาอายุวัฒนะ
เอากล้วยน้ำว้าชนิดงอมจัดๆ
คือ เปลือกกล้วยเริ่มมีจุดดำบ้างแล้ว มาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ ดุจหั่นแตงกวา
ปริมาณ 10 ผล ต่อน้ำผึ้ง 1 ขวดกลม (750 มล.)
จะดองครั้งละกี่ขวดก็ได้ ตามส่วนที่ได้แจ้งมา
ส่วนน้ำผึ้งนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นน้ำผึ้งแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยคงหายาก
นำส่วนผสมมาใส่ขวดโหลดองเอาไว้ อย่าใส่ให้เต็มโหล ประเดี๋ยวจะฟูและล้นมานอกโหล
ต้องดองให้ครบ 3 เดือน จึงจะใช้ได้
ระหว่าง 3 สัปดาห์แรก กล้วยจะลอยอยู่ข้างบนและจะมีรา จงใช้ไม้ตะเกียบคนให้กล้วยข้างบนจมลงไปอยู่ด้านล่าง
ต่อไปก็จะมีราขึ้นอีก หมั่นคนจนไม่มีราเกิดขึ้นอีก
เมื่อครบ 3 เดือนแล้ว จงเอาผ้าบางมากรองโดยไม่ต้องคั้น
น้ำจะใส มีรสเปรี้ยวนิดๆ
เอากากกล้วยทิ้งไป กินแต่เฉพาะส่วนที่เป็นน้ำ
กินคืนละ 1 ถ้วยชาจีน หรือประมาณ 4 ช้อนคาว กินทุกคืนก่อนนอน
ถ้ารับประทานมากเกินไปจะร้อนจนทนไม่ไหว
เมื่อกินไปได้ 15 วัน ท่านจะรู้สึกตัวทันทีว่า ร่างกายอบอุ่นและกระชุ่มกระชวยผิดธรรมดา
เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือ “รีดเดอร์ไดเจสต์” ของต่างประเทศ
เขาก็มีอยู่บทหนึ่งที่กล่าวว่า
เมื่อเชื้อเห็ดราของผลไม้ผสมกับน้ำผึ้งแล้ว จะทำให้เกิดปฏิกิริยา คือสามารถสร้างฮอร์โมนในร่างกายของคนเราได้
คือต้องการเชื้อเห็ดราของกล้วยนั่นเอง มาตรงกับยาอายุวัฒนะของไทยเรา
เมื่อท่านลองแล้วท่านจะเห็นผลเอง
ยาขนานนี้ไม่แต่เป็นยาอายุวัฒนะเพียงอย่างเดียว ยังเป็นยาเตะปี๊บพังด้วย
คำพังเพยของไทยเรากล่าวว่า
“ตากแดดตากลม เพราะอ้ายนมสองเต้า ลำบากยากเข็ญ เพราะเอ็นอันเดียว” ก็คงเป็นจริงอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.coastalaqua.com/webboard/index.php?topic=4923.0
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กล้วยน้ำว้า...อุดมไปด้วยประโยชน์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa ABB cv. Kluai 'Namwa'
ชื่อสามัญ : Banana
วงศ์ : Musaceae
ชื่ออื่น : กล้วยมะลิอ่อง (จันทบุรี) กล้วยใต้ (เชียงใหม่, เชียงราย) กล้วยอ่อง (ชัยภูมิ) กล้วยตานีอ่อง (อุบลราชธานี)
ลักษณ...ะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูงประมาณ 3.5 เมตร ลำต้นสั้นอยู่ใต้ดิน กาบเรียงเวียนซ้อนกันเป็นลำต้นเทียม สีเขียวอ่อน ใบ เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ออกเรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 25-40 ซม. ยาว 1-2 เมตร ปลายใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ด้านล่างมีนวลสีขาว เส้นใบขนานกันในแนวขวาง ก้านใบเป็นร่องแคบ ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอดห้อยลง เรียกว่า หัวปลี มีใบประดับขนาดใหญ่หุ้มสีแดงเข้ม เมื่อบานจะม้วนงอขึ้น ด้านนอกมีนวล ด้านในเกลี้ยง ผล รูปรี ยาว 11-13 ซม. ผิวเรียบ ปลายเป็นจุก เนื้อในมีสีขาว พอสุกเปลือกผลเป็นสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน รับประทานได้ หวีหนึ่งมี 10-16 ผล บางครั้งมีเมล็ด เมล็ดกลม สีดำ
ส่วนที่ใช้ : หัวปลี เนื้อกล้วยน้ำว้าดิบ หรือห่าม กล้วยน้ำว้าสุกงอม ราก ต้น ใบ ยางจากใบ
สรรพคุณ :
• ราก - แก้ขัดเบา
• ต้น - ห้ามเลือด แก้โรคไส้เลื่อน
• ใบ - รักษาแผลสุนัขกัด ห้ามเลือด
• ยางจากใบ - ห้ามเลือด สมานแผล
• ผล - รักษาโรคกระเพาะ แก้ท้องเสีย ยาอายุวัฒนะ แก้โรคบิด รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้ริดสีดวง
• กล้วยน้ำว้าดิบ - มีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเดิน แก้โรคกระเพาะ และอาหารไม่ย่อย
• กล้วยน้ำว้าสุกงอม - เป็นอาหาร ยาระบาย สำหรับผู้ที่อุจจาระแข็ง หรือเป็นริดสีดวงทวารขั้นแรกจนกระทั่ง
ถ่ายเป็นเลือด
• หัวปลี - (ช่อดอกของต้นกล้วย จำนวนไม่จำกัด) ขับน้ำนม
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
• ขับน้ำนม - ใช้หัวปลีแกงเลียงรับประทานบ่อยๆ หลังคลอดใหม่ๆ
• แก้ท้องเดินท้องเสีย
ใช้กล้วยน้ำว้าดิบหรือห่ามมาปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มนานครึ่งชั่วโมง ดื่มครั้งละ 1/2 - 1 ถ้วยแก้ว ให้ดื่มทุกครั้งที่ถ่าย หรือทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ใน 4-5 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นให้ดื่มทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 3-4 ครั้ง
สรรพคุณเด่น :
• แก้โรคกระเพาะ ท้องผูกและท้องเดิน
1. แก้โรคกระเพาะ - นำกล้วยน้ำว้าดิบ (ถ้าเป็นกล้วยกักมุกดิบจะดีกว่า) มาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบางๆ ตากแดด 2 วันให้แห้งกรอบ บดเป็นผงให้ละเอียด ใช้รับประทาน ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำข้าว น้ำผึ้ง (น้ำธรรมดาก็ได้) รับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง และก่อนนอนทุกวัน
2. แก้ท้องผูก - ให้รับประทานกล้วยน้ำว้าสุกงอม ครั้งละ 2 ผล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 1/2 ชั่วโมง เวลารับประทานควรเคี้ยวให้ละเอียดที่สุด
3. แก้ท้องเดิน - ใช้เนื้อกล้วยน้ำว้าห่ามรับประทาน หรือใช้กล้วยน้ำว้าดิบ ฝานเป็นแว่น ตากแห้งรับประทาน
สารเคมีที่พบ :
• หัวปลี มีธาตุเหล็กมาก
• หัวปลี และราก มี Triterpene หรือ Steroid
ผลกล้วย ทุกชนิดประกอบด้วย น้ำ แป้ง โปรตีน ไขมัน เส้นใย เกลือแร่ต่างๆ (โดยเฉพาะแคลเซียม เหล็ก และโปรแตสเซียมในกล้วยหอมมีมาก) วิตามิน และเอนไซม์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมี Serotonin Noradrenaline และ Dopamine
• ผลดิบ มีแป้ง Tannin acid, Gallic acid และ Pectin มาก
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กล้วยน้ำว้า มี โปรตีน และมีกรดอะมิโน อาร์จินิน และ ฮีสติดิน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก แถมยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย นั้นเป็นคุณค่าทางโภชนาการ คราวนี้เรามาดูกันว่า
สรรพคุณทางยาของกล้วยน้ำว้า มีอะไรกันบ้าง
1. ช่วยบรรเทาอาการ เจ็บคอ และอาการ เจ็บหน้าอก จากการ ไอแห้ง ทานวันละ 5-6 ผล จะช่วยให้อาการระคายเคืองลดน้อยลงได้
2. ช่วยเรื่อง กลิ่นปาก ทำให้ ลดกลิ่นปาก ได้ดี วิธีรับประทานคือทานกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนทันที แล้วค่อยแปรงฟัน จะช่วยลดกลิ่นปากได้
3. ช่วยเป็น ยาระบายแก้ท้องผูก หรือระบบขับถ่ายไม่ปกติ วิธีรับประทานคือ ทาน กล้วยน้ำว้าสุก 1-2 ผล ก่อนนอน และดื่มน้ำตามมากๆ จะช่วยให้ถ่ายท้องได้ดีในวันรุ่งขึ้น
4. ช่วยแก้ท้องเดิน หรือ ท้องเสีย ได้ ในกล้วยน้ำว้าจะมี สารเทนนิน ซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้ โดยการน้ำ กล้วยน้ำว้าดิบ หรือ กล้วยน้ำว้าห่าม มาปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มนานครึ่งชั่วโมง ดื่มครั้งละ 1/2- 1 ถ้วยแก้ว ให้ดื่มทุกครั้งที่ถ่าย หรือทุกๆ 1-2 ชม. ใน 4-5 ชม.แรก หลังจากนั้นให้ดื่มทุกๆ 3-4 ชม. หรือ วันละ 3-4 ครั้ง (ถ้ายุ่งยาก ก็หายามาทานก็ได้ค่ะ)
5. ช่วยรักษา โรคกระเพาะ ได้ นำ กล้วยน้ำว้าดิบ มาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แตกแดด 2 วัน ให้แห้งกรอบ บดเป็นผงให้ละเอียด ใช้ทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำข้าว หรือน้ำผึ้ง ทานก่อนอาหาร ครึ่งชม. หรือก่อนนอนทุกวัน
6. เปลือกกล้วยน้ำว้า ช่วยบรรเทา อาการคัน อันเนื่องมาจากแมลงกัดต่อย และ ผื่นแดง จากอาการคันได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ในการ ต้านเชื้อรา และ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดหนอง
รู้สรรพคุณของกล้วยน้ำว้าอย่างนี้แล้ว รีบไปซื้อติดบ้าน ไว้รับประทานบ้าง ก็คงจะดีไม่น้อย ...
ขอขอบคุญข้อมูลจาก นิตยาสาร Truth Today
นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี's photo.
Like · Comment · Share