Wednesday, July 22, 2015

วิธีแก้ตะขาบกัด โดนตะขาบกัดต้องทำอย่างไร


ตะขาบ (Centipede) เป็นสัตว์เลื้อยคลานมีพิษชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อยในเขตร้อนชื้น ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่อับชื้นและที่รก เช่น กองไม้ ใต้ตุ่มน้ำ และซากต้นไม้ เป็นต้น โดยจัดเป็นสัตว์ที่มีพิษอันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าได้รับพิษในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่แพ้พิษตะขาบ วันนี้เราจะขอนำเสนอวิธีแก้ตะขาบกัดด้วยสมุนไพรให้ได้ทราบกัน…
advertisements


อาการของพิษเมื่อโดนตะขาบกัด
โดยพิษของตะขาบนั้นประกอบไปด้วยสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เมื่อถูกกัดแล้วจะส่งผลให้มีอาการปวด บวมแดง และถ้าหากเกิดอาการบวมมากจะทำให้เลือดไม้ไปหล่อเลี้ยงบริเวณนั้น จึงต้องตัดบริเวณนั้นทิ้งก็เป็นได้

วิธีแก้ตะขาบกัดด้วยสมุนไพร
โดยการรักษาพิษตะขาบนั้น เบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยการทำความสะอาดแผลให้สะอาด จากนั้นควรทานยาแก้ปวดตามเพื่อระงับอาการปวด อีกทั้งพิษตะขาบกัดยังสามารถรักษาได้ด้วยสมุนไพรอีกด้วย

1. ตะขาบบิน
โดยการนำใบสดมาตำให้ละเอียด และผสมกับเหล้า หรือน้ำซาวข้าว จากนั้นกรองแยกน้ำกับกาก แล้วจึงนำน้ำมาทาบริเวณแผล แล้วนำกากที่ได้มาพอกทิ้งไว้อีกรอบ จะช่วยแก้พิษตะขาบได้ รวมทั้งลดอาการบวมได้อีกด้วย

2. ตำลึง
เพียงนำตำลึงมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาพอกบริเวณที่ถูกตะขาบกัด จะช่วยถอนพิษตะขาบได้เป็นอย่างดี

3. ขิงแก่
โดยการนำขิงแก่มาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับเหล้าขาว แล้วจึงนำไปพอกทิ้งไว้บริเวณที่ถูกตะขาบกัด จะช่วยบรรเทาอาการปวดจากพิษตะขาบได้ รวมทั้งยังสามารถถอนพิษตะขาบได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับวิธีแก้ตะขาบกัดด้วยสมุนไพร แต่ถ้าบริเวณแผลที่ถูกตะขายกัดมีอาการบวมมากเป็นพิเศษ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วจะเหมาะสมกว่า เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นหนักกว่าเดิมได้…

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
http://www.เกร็ดความรู้.net/วิธีแก้ตะขาบกัด/

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ตะขาบกัดเกิดอักเสบมากเอายาอะไรไปแก้ไขจึงจะหาย?

สมุนไพรที่น่าสนใจแก้อาการปวดเจ็บจากตะขาบกัดเอาก็คือ “ขิงแก่”โดยการเอาขิงแก่มาตำให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับเหล้าขาวหรือเหล้าโรงพอเป็นก้อนไม่เหลวเละ พอกเอาไว้ที่รอยเขี้ยวที่ตะขาบกัดเอา ขิงแก่ที่ผสมกับเหล้าโรงนี่แหละเป็นตัวยาสำคัญที่อาการปวดบวมของตะขาบกัดจะทุเลาลงอย่างรวดเร็ว อาการเจ็บปวดก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ถอนพิษได้วิเศษมาก เพียงแต่เปลี่ยนตัวยาบ่อยๆ วันละ 3-4 ครั้ง

ตำราที่ 2 ตำลึง"รักษาพิษแมลงกัดต่อยได้

ราก : แก้ดวงตาเป็นฝ้า แก้โรคตา ดับพิษทั้งปวง ลดความอ้วน แก้ไข้ทุกชนิด ฝนทาภายนอก แก้พิษอักเสบ ฝีต่าง ๆ แก้ปวดบวม แก้พิษร้อนภายใน แก้พิษแมงป่อง หรือแก้พิษตะขาบ ถอนพิษ 

หมอแผนไทยว่า ใบตำลึงรักษาอาการพิษจากแมลงสัตย์กัดต่อย และพิษพืชแล้วบันทึกไว้ 

วิธีใช้ใบตำลึง

1.เด็ดใบตำลึงสด อายุของใบที่ไม่แก่จัดและไม่อ่อนจนเกินไป มาล้างให้สะอาดและขยี้จนเละ

2.ล้างบริเวณที่ถูกพิษสัตว์ ประเภท แมลง มด เสียก่อน

3.นำใบตำลึงดีมาขยี้ปิดบริเวณที่ถูกแมลงต่อยจะรู้สักเย็น ให้รักษาครึ่งหนึ่งของส่วนที่ถูกพิษ เพื่อเปรียบเทียบกับอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้รักษา

4.ถ้ารู้สึกดีขึ้น แต่ไม่หายภายใน 15 นาที ให้เปลี่ยนใบตำลึง ทำบ่อย ๆ จนหาย

5.ถ้าแปะใบตำลึงแล้วมีอาการอื่นตอกจากรู้สึกเย็น แสดงว่าแพ้ ให้รีบล้างออก แล้วใช้ยาแผนปัจจุบันต่อไป หรือถ้าใช้ใบตำลึงแล้วไม่รู้สึกดีขึ้นภายใน 15 นาที ให้เลิกใช้ แล้วใช้ยาแผนปัจจุบันต่อไป

สรุป การใช้ใบตำลึงรักษาอาการปวด บวม คัน จากพิษของแมลงและอาการพิษของพืชที่นำเสนอนี้ นับว่าสามารถรักษาได้จริงตามตำรายาแผนโบราณ คิดว่าในใบตำลึงน่าจะมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ในการแก้แพ้ (Anti Allergy) ที่เหมาะสมกับพิษของแมลงและพืชบางชนิด

ที่มา : วารสารอาหารและยา ฉบับเดือน พ.ค.- ส.ค. 2542 

ตำราที่ 3...ต้นหงอนไก่

ชื่ออื่น ๆ : ดอกด้าย (ภาคเหนือ), หงอนไก่ดอกกลม , หงอนไก่ฟ้า (ภาคกลาง) , พอคอที (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), หงอนไก่ดง (นครสวรรค์) , แชเสี่ยง (จีนแต้จิ๋ว)

สรรพคุณ : ลำต้น ใช้ลำต้นสด นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้โรคท้องเสีย อาเจียนเป็นเลือด ริดสีดวงทวารมีเลือดออก กระอักเลือด ตกเลือด หรือใช้ลำต้นที่อ่อนตำให้ละเอียดใช้พอกแก้ตะขาบกัด เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจความรู้เรื่องอาหารและสุขภาพ
loading...